บทความจาก REVIVE ISRAEL ภาคภาษาไทย ฉบับวันที่ 12 กรกฎาคม 2557
โดย อาเชอร์ อินเทรเตอร์
มีวลีสั้นๆใน สดุดี 118:16 ที่ได้เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของทั้งในโลกของชาวยิว และคริสเตียน วลีนี้ในภาษาฮีบรูคือ ברוך הבא , บารุค ฮาบา, "สาธุการแด่พระองค์ผู้ซึ่งเสด็จมา.."
พระเยซูและเหล่าสาวกได้พูดถึง “บารุค ฮาบา” ถึงสองครั้ง ครั้งหนึ่งขณะการเดินทางเข้ากรุงเยรูซาเล็มของพระองค์ (มัทธิว 21:9) และอีกครั้งในตอนท้ายของการตอบโต้กับเหล่าผู้นำศาสนาอย่างยืดยาว (มัทธิว 33:39)
การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มของพระเยซู พระองค์ได้ทรงบนหลังลาตัวหนึ่ง เป็นไปตามคำทำนายใน เศคาริยาห์ 9:91 เหล่าสาวกของพระองค์ตั้งขบวนแถวบนถนนขณะพระองค์ทรงหลังลาผ่าน การประกาศนี้เป็นการเชื้อเชิญที่ยังไม่สมบูรณ์ ณ ขณะนั้น คือการประกาศว่าสำหรับพระองค์ผู้ทรงเสด็จเข้ามาในฐานะกษัตริย์ พระเมสสิยาห์ในกรุงเยรูซาเล็ม
(มธ.21:9) ฝ่ายฝูงชนซึ่งเดินไปข้างหน้ากับผู้ที่ตามมาข้างหลังก็พร้อมกันโห่ร้องว่า “โฮซันนาแก่ราชโอรสของดาวิด ‘ขอให้พระองค์ผู้เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเจริญ โฮซันนา’ ในที่สูงสุด”
(มธ.23:37-39) โอ เยรูซาเล็ม....บ้านเมืองของเจ้าจะถูกละทิ้งให้รกร้างแก่เจ้า...เจ้าจะไม่เห็นเราอีกจนกว่าเจ้าจะกล่าวว่า ‘ขอให้พระองค์ผู้เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเจริญ’”
พระเยซูและเหล่าสาวกได้พูดถึง “บารุค ฮาบา” ถึงสองครั้ง ครั้งหนึ่งขณะการเดินทางเข้ากรุงเยรูซาเล็มของพระองค์ (มัทธิว 21:9) และอีกครั้งในตอนท้ายของการตอบโต้กับเหล่าผู้นำศาสนาอย่างยืดยาว (มัทธิว 33:39)
การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มของพระเยซู พระองค์ได้ทรงบนหลังลาตัวหนึ่ง เป็นไปตามคำทำนายใน เศคาริยาห์ 9:91 เหล่าสาวกของพระองค์ตั้งขบวนแถวบนถนนขณะพระองค์ทรงหลังลาผ่าน การประกาศนี้เป็นการเชื้อเชิญที่ยังไม่สมบูรณ์ ณ ขณะนั้น คือการประกาศว่าสำหรับพระองค์ผู้ทรงเสด็จเข้ามาในฐานะกษัตริย์ พระเมสสิยาห์ในกรุงเยรูซาเล็ม
(มธ.21:9) ฝ่ายฝูงชนซึ่งเดินไปข้างหน้ากับผู้ที่ตามมาข้างหลังก็พร้อมกันโห่ร้องว่า “โฮซันนาแก่ราชโอรสของดาวิด ‘ขอให้พระองค์ผู้เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเจริญ โฮซันนา’ ในที่สูงสุด”
(มธ.23:37-39) โอ เยรูซาเล็ม....บ้านเมืองของเจ้าจะถูกละทิ้งให้รกร้างแก่เจ้า...เจ้าจะไม่เห็นเราอีกจนกว่าเจ้าจะกล่าวว่า ‘ขอให้พระองค์ผู้เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเจริญ’”
ครั้งที่สองที่มีการใช้คำว่า “บารุค ฮาบา” คือการพยากรณ์ของพระเยซูถึงการถูกทำลายของกรุงเยรูซาเล็ม และอนาคตของกรุงนี้ที่จะถูกสร้างขึ้นใหม่ ครั้งนี้พระเยซูได้ตำหนิเหล่าฟาริสีเพราะเขาได้ปฏิเสธพระองค์ และพระองค์ยังประทานพระสัญญาว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาเมื่อประชาชนจะร้องออกมาว่า “บารุค ฮาบา”
ถ้อยคำที่เขาเข้าใจกันผิด
ท่ามกลางชาวยิวร่วมสมัย วลีนี้เป็นที่โด่งดังในช่วงปี 1990 โดย ลูบาวิทเชอร์ ฮัสสิดิม (Lubavitcher Hassidim) ที่เขาได้ประกาศว่ามีนาคิม ชเนียร์ซัน (Menachem Schneerson)รับไบของพวกเขาเป็นพระเมสสิยาห์ เขาได้เสียชีวิตลงเมื่อเดือนมิถุนายน 1994 (ครบรอบ 20 ปีเมื่อเดือนที่แล้ว) สาวกของเขาได้นำภาพโปสเตอร์รูปเขาติดทั้วกรุงเยรูซาเล็มพร้อมกับถ้อยคำว่า ขอสาธุการพระองค์ผู้ทรงเสด็จมา กษัตริย์พระเมสสิยาห์ เขายก สดุดี 118 ขึ้นมาอ้างถึงพระเมสสิยาห์เช่นเดียวกับที่เราได้เข้าใจกันในพระกิตติคุณ (ยกเว้นเรื่องของ “ตัวแทนผู้สมัคร” ในการเป็นเมสสิยาห์) ยิวผู้เคร่งศาสนาอ่านสดุดีตลอดช่วงวันเทศกาลทางศาสนา คนอิสราเอลจะอ่านบทเพลงสดุดีในช่วงเวลายากลำบาก และมีความต้องการพิเศษ ด้วยเหตุนี้การอ่านสดุดี 118 ในที่สาธารณะอาจเป็นภาพที่เล็งถึงวิกฤตการณ์ที่จะเกิดขึ้นแก่ชนชาตินี้ในอนาคตก็ได้(มธ.21:42) พระเยซูตรัสแก่พวกเขาว่า “พวกท่านไม่เคยอ่านพระคัมภีร์หรือที่ว่า“ ‘ศิลาซึ่งช่างก่อได้ทิ้งแล้ว บัดนี้กลับกลายเป็นศิลามุมเอก องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกระทำการนี้ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ในสายตาของเรา’
สดุดี 118 สั่งว่าผู้ใดที่ได้รับการต้อนรับการเข้าสู่กรุงแยรูซาเล็มในฐานะพระเมสสิยาห์จะเป็นเหมือนศิลาที่ในตอนแรกถูก”ช่างก่อ” (นักศาสนศาสตร์ และผู้นำทางการเมือง) ได้ปฏิเสธเสีย – ปฏิเสธในตอนแรกและต้อนรับในตอนหลัง
การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มของพระเยซูเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเติมเต็มให้คำพยากรณ์สมบูรณ์ และวันนั้นจะมาถึง วันที่พระองค์จะเสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มอีกครั้งหนึ่ง และนี่เหมือนจะเป็นช่วงเวลาที่มีแนวโน้มว่าประชาชาติจะอยู่ในช่วงวิกฤต และในวันสำคัญทางศาสนาที่มีการอ่านสดุดีโดยทั่วกัน และทุกคนจะร้องออกมาว่า บารุค ฮาบา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น