วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ความชอบธรรมและสงครามฉนวนกาซา

บทความจาก REVIVE ISRAEL ภาคภาษาไทย ฉบับวันที่ 3 สิงหาคม 2557 


โดยแอเรียล บลูเมนเธล

          กว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่เราอธิษฐานเผื่อสถานการณ์ในฉนวนกาซา พระวิญญาณได้เน้นในหลายข้อความใน อิสยาห์ 51 บทหลักที่เกี่ยวกับ “ความชอบธรรม”
          ข้อ 1 : จงฟังเราซี เจ้าทั้งหลายผู้ขวนขวายหาความชอบธรรม เจ้าผู้แสวงพระเจ้า...
         คริสเตียนที่จริงใจส่วนใหญ่ พวกที่อยู่ฝ่ายอิสราเอลหรือต่อต้านอิสราเอล กำลังห่วงใยอย่างมากในประเด็นของความชอบธรรมและความยุติธรรม  แต่ในขณะเดียวกันที่เรากำลังดูผ่านสื่อที่เปิดเผยให้เห็นถึงสถานการณ์ในฉนวนกาซาด้วยจำนวนของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บที่กำลังเพิ่มขึ้นของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งสถานการณ์นี้เหมือนกับว่าเป็นเกมส์ตัวเลข คล้ายกับการแข่งขันฟุตบอลโลก นัดการแข่งขันที่เยอรมันเอาชนะบราซิล เกมส์การแข่งขันดูเหมือนว่าจะไม่สมดุลอย่างมาก ชาวอาหรับปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์จำนวนมากกำลังล้มตาย ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตชาวอิสราเอลค่อนข้างต่ำ  และนี่ไม่ใช่ “สงคราม” ที่ธรรมดา แต่มันเป็นสงครามที่สำคัญมากทั้ง สงครามบนพื้นดินในสมรภูมิรบและสงครามอันรุนแรงบนโลกอินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่ายบนสังคมออนไลน์ ที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างบอกเล่าเรื่องของฝ่ายตนเพื่ออ้างความชอบธรรมทางศีลธรรมที่สูงกว่าอีกฝ่ายใครตกเหยื่อมากกว่ากัน มันเป็นสิ่งที่ท้าทายมากว่าจะแยกได้อย่างไรว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกและอะไรคือสิ่งที่ผิดในสถานการณ์อันซับซ้อนเช่นนี้ จะสามารถพบความชอบธรรมของพระเจ้าได้อย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้?
          ข้อ 2 : “จงมองอับราฮัมบรรพบุรุษของเจ้าทั้งหลาย...”
          มีความจริงอันมั่นคงแห่งพระวจนะที่ลึกซึ้งถูกเปิดเผยที่นี่ ความชอบธรรมของพระเจ้าคือสิ่งแรกและมาก่อน ไม่ใช่ประเด็นของความถูกต้องของมนุษย์ที่บอกว่าถูกหรือผิด หรือไม่ใช่ประเด็นของการที่จำนวนร่างของผู้เสียชีวิตของทั้ง 2 ฝ่าย กำลังเพิ่มขึ้น แต่มันเกี่ยวกับการเลือกของพระองค์ คือสิทธิ์ของพระองค์ในฐานะที่เป็นพระเจ้าและผู้ครองโลกนี้ และการที่พระองค์จะเลือกตามพระประสงค์นิรันดร์ของพระองค์ อิสยาห์ซึ่งเหมือนกับอัครทูตเปาโลในพระธรรมโรม ที่ชี้ให้เราเห็นการเลือกของพระเจ้าในกรณีของ อับราฮัมและซาราห์ อิสอัคและยาโคบ... หรือเหนือสิ่งอื่นใดคือการเลือกชนชาติอิสราเอล (ชนชาติ = ประชาชนและดินแดน) ซึ่งการทรงเลือกอิสราเอล เป็นสิ่งแรกของการเข้าใจในความชอบธรรมของพระเจ้า  พระเจ้าทรงความชอบธรรมสูงสุดเพราะว่าพระองค์คือพระราชาและผู้สร้างโลกนิรันดร์ ซึ่งไม่ใช่เพียงเพราะมาตรฐานทางศีลธรรมที่พระองค์ทรงส่งผ่านมายังมนุษย์ หรือไม่ใช่เพียงเพราะว่าอับราฮัมคือบุคคลที่ชอบธรรมที่สุดและเป็นคนที่ครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตอยู่ (แน่นอนว่า ลำดับความสำคัญถัดไปของความชอบธรรม มีมาตรฐานอันสูงอย่างไม่น่าเชื่อของศีลธรรมและความยุติธรรมที่เราต้องแสวงหาเพื่อเชื่อฟัง)
          ข้อ 3 : เพราะว่าพระเจ้าจะทรงเล้าโลมศิโยน...”
          บทเรียนสำหรับเราในช่วงยุดสุดท้ายเช่นนี้คือ สิ่งนี้ เพื่อที่จะสามารถเข้าใจความชอบธรรมและความยุติธรรมได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวข้องกับ อิสราเอล/เยรูซาเล็ม/ศิโยน อย่างแรกเราต้องยอมรับการทรงเลือก โดยเฉพาะเจาะจงคือการเลือกอิสราเอลและชนชาติยิวของพระองค์ ผ่านทางอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ และเหนือสิ่งอื่นใดการเลือกหนึ่งเดียวของกษัตริย์แห่งอิสราเอล จอมกษัตริย์เหนือกษัตริย์ เยชูวา(พระเยซูคริสต์ในภาษาฮีบรู) สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกสิ่งที่อิสราเอลทำนั้นถูกต้อง  มากไปกว่านี้สิ่งที่อิสราเอลทำสำหรับผู้เชื่อทุกคน ก็ถูกเลือกโดยพระเจ้าด้วยเช่นเดียวกัน พระองค์คือผู้เดียวที่กำหนด เรียก ให้ความยุติธรรม และให้เกียรติสง่าราศี (โรม8:28-30) ถ้าเราไม่ได้จดจำลำดับความสำคัญทางพระคัมภีร์ สิทธิ์ของพระองค์ที่ทรงสัตย์ซื่อถึงการทรงเลือกอันสง่างามของพระองค์ ถึงแม้ว่าเราจะไม่สมควรเลย เราอาจจะตกอยู่ในอันตรายของการหลอกลวงที่จะเกิดขึ้นเสมอ โดยพยายามจะค้นหาให้ได้ว่าใครที่ถูกหรือผิดมากกว่ากันในท่ามกลางสถานการณ์อันซับซ้อนอย่างมากมายเช่นนี้ และที่ฉลาดมากไปกว่านี้คือการถูกล้างสมองจากสื่อ “หามิได้เลย ถึงแม้ทุกคนจะอสัตย์ ก็ขอให้พระเจ้าทรงสัจจะเถิด…” (โรม 3:4)
ความสงสารที่มีต่อชาวกาซ่า
ยิ่งเราสงสารชาวกาซ่ามากเท่าไร เรายิ่งควรจะต้องทำลายอำนาจเผด็จการของมุสลิมหัวรุนแรงฮามาส (Hamas) ยิ่งเรามีความสงสารต่อพวกเขาน้อยเท่าไร มันยิ่งง่ายกว่าที่เราจะยอมรับการหยุดยิงและปล่อยให้ฮามาสเดินหน้าในการครอบครองต่อไป
ให้เราจำไว้ว่าพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้า (YHVH คือพระนามพระเจ้า) ของกองทัพ พระองค์สามารถให้พระวิญญาณแห่งชัยชนะ สงครามก็สามารถถูกชนะได้ ความชอบธรรมสามารถมีชัย พระเจ้าไม่ทรงเกรงกลัว จนถึงทุกวันนี้พระองค์ไม่เคยพ่ายแพ้สงคราม พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแม่ทัพของกองทัพแห่งสวรรค์ (อพยพ15:2, โยชูวา5:13, วิวรณ์19:11)
          พระเยซูคริสต์สอนเราว่าในสงครามฝ่ายวิญญาณ เราต้องผูกมัดผู้มีกำลังมากเป็นสิ่งแรกและจากนั้นริบเอาสิ่งของไป (ลูกา11:21) ผู้มีกำลังมากในที่นี้คือวิญญาณของอิสลามหัวรุนแรง สิ่งของในที่นี้คือจิตวิญญาณของชาวปาเลสไตน์ที่ต้องการความรอด เราเชื่อว่าถ้าเราอธิษฐานผูกมัดพลังอำนาจของมารที่อยู่เบื้องหลังสงครามนี้ จากนั้นกลุ่มก่อการร้ายจะถูกทำลาย และคลื่นลูกใหม่แห่งเสรีภาพทางศาสนา ความรอด สันติภาพ และความมั่งคั่งเจริญรุ่งเรืองจะตามมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น